วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

Techno Showcase Exhibition



วันนี้เบียร์จะพาทุกคนไปดูงานTechno showcase กันค่ะ หลายคนคงสงสัยว่า Techno showcase คืออะไร ใช่งานที่เด็กเทคโนเค้าเอาเคสมือถือมาขายรึเปล่าน้า55+  ไม่ใช่ค่ะแต่ใกล้เคียง เป็นเคสเหมือนกันแต่ไม่ใช่เคสมือถือ เป็นงานที่เด็กภาคเทคโนโลยีการศึกษา เราเอาทุก case ที่เราเรียนกันออกมาโชว์ค่ะ ว่าเด็กเทคโนเราเรียนอะไรกันบ้าง
งานนี้นะคะเราจัดไปเมื่อวันที่ 15-16 สิงหาคมที่ผ่านมาค่ะ ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารนวัตกรรมศาสตราจารย์ดร.สาโรช บัวศรี มศว ประสานมิตร ว่าแล้วก็ไปดูเลยดีกว่าค่ะ
ก่อนอื่นเดินเข้างานมาต้องลงทะเบียน แล้วก็ทำตามขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมอันดีงามของคนไทยกันก่อน ก็ถ่ายรูปหน้างานแล้วก็อัพfacebookกันก่อนเลยค่ะ เอ้ยไม่ใช่ค่ะ ยกมือสวัสดีรุ่นพี่กันก่อนสิคะ อิอิ เสดแล้วก็เดินเข้าไปในงานก็จะพบกับบูท 8 บูท แต่ละบูทก็คิดชื่อมาแบบโกอินเตอร์ไม่แพ้ชื่องานเลยล่ะค่ะ มีทั้ง See snap, Away so far, X-lporing Tech for fun ,  Do you here me? ,  Read me please , Tech for teach , Now you see me , Around the world   แต่ละบูทก็คิดชื่อมาเก๋ไก๋แบบไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียวล่ะค่ะ 
             
บูทแรกที่เบียร์เข้าเลยไปนะคะก็คือ now you see me  แปลว่า ตอนนี้คุณเห็นฉันไหม ซึ่งเป็นบูทที่ลึกลับและเงียบมาก อยู่ในหลืบ เอ้ยไม่ใช่ค่ะ อยู่ด้านในของตึก เพราะเค้าต้องความเงียบค่ะ มีการสอนอัดรายการกันจริงๆ บูทนี้เป็นบูธโทรทัศน์เพื่อการศึกษา  ก็จะมีการอบรมว่าเราเอาโทรทัศน์มาใช้เพื่อการศึกษาอย่างไรบ้าง   ที่นี่ก็จะมีสอนถ่ายทำ  สอนตัดต่อ  แล้วก็มีให้เวิร์คชอบให้ผู้ร่วมงานเข้าไปอัดรายการอ่านข่าวเป็นพี่สรยุทธ และน้องไบท์แห่งวิกอโศกกันได้ค่ะ    ^^

       

บูทต่อไปนะคะอยู่ข้างๆกัน See snap หรือว่า ภาพถ่ายเพื่อการศึกษาค่ะ บูทนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน  มีการจัดแสดง  Gallery ภาพถ่ายของนิสิตเอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา  และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือยกเอาสตูดิโอถ่ายภาพมาให้ผู้ที่เข้าชมงานได้ถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกได้อย่างจุใจเลยล่ะค่ะ แต่เบียร์ลืมถ่ายตัวเองมามัวแต่ถ่ายให้เพื่อน 555  
หลังจากที่เข้าไปตากแอร์มาแล้วก็ออกมาอีก 6 บูทด้านนอกค่ะ บูทแรกที่อยู่ติดกับเวทีเลยก็คือ X- Ploring Tech for fun หรือเกมส์เพื่อการศึกษา   ในบูธนี้ก็จะเกมส์เพื่อการศึกษาค่ะ เช่น Draw Something หรือว่า Sudoku ซึ่งแต่ละเกมก็จะเกมที่เกี่ยวกับการศึกษาและช่วยพัฒนาสมอง 
ถัดมาบูธข้างๆกันก็จะเป็น Read me please (สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อการศึกษา) บูธนี้น่าสนใจมากสำหรับเบียร์ค่ะ เพราะว่ากิจกรรมที่ให้ทำมีรูปเจมจิ อิอิ  แต่ที่น่าสนใจกว่าเจมจิคือ หนังสือค่ะ เพราะว่าเบียร์เป็นคนชอบอ่านหนังสือแล้วพี่ๆก็ดันเอาหนังสือมาล่อตาล่อใจเบียร์ เล่มนู้นก็น่าอ่าน เล่มนี้ก็น่าสน มีนิตยสารที่รุ่นพี่ๆทำเองด้วยค่ะ มีความคิดสร้างสรรค์แล้วก็น่าสนใจมากๆเลยล่ะค่ะ

บูทต่อไปก็คือTech for Teach (สื่อการสอนเพื่อการศึกษา) บูทนี้ก็จะนำเสนอสื่อการสอนต่างๆ ที่นิสิตเราทำเอง ซึ่งมีทั้งของภาควิชาเราและภาควิชาอื่นที่เรียนครู เห็นแล้วรู้สึกชื่นชมในศักยภาพของนิสิตเรามากๆเลยล่ะค่ะ หลายชิ้นนี่คุณภาพเทียบเท่าสื่อการสอนที่ขายบนห้างราคาแพงๆได้เลยล่ะค่ะ


กระโดดไปบูทที่อยู่ตรงข้ามกัน Around the world หรือ โซเชียลกับการศึกษา ในบูทนี้ ก็จะเน้นที่การให้ความรู้มากหน่อย  มีการจัดแสดงโปสเตอร์ให้ความรู้เกี่ยวกับ Blog  Wikipedia Goole  Facebook Pantip Instargram  Youtube  บลาๆๆ ซึ่งเป็น Social network ที่เป็นเครื่องข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ต่างๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เป็นการเรียนรู้ตามอัธยาศัย หรือว่าการศึกษาตลอดชีวิตนั่นเอง


มาต่อกันด้วย Away so far หรือว่า การศึกษาทางไกล  ในบูธนี้จัดแสดงโปสเตอร์ให้ความรู้เรื่องการศึกษาทางไกล ซึ่งเป็นการจัดรูปแบบการจัดการเรียนการสอนในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่มีขีดจำกัดในเรื่องของสถานที่และเวลา โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเรียนการสอน ให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง  และได้มีการทำแบบจำลองการสื่อสารทางไกลมาช่วยให้ผู้เข้าชมเห็นภาพและเข้าใจได้ง่าย   ในเรื่องของการส่งสัญญาณการเรียนการสอนทางไกล ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ระบบ คือ ระบบสื่อสารทางเดียว เช่น วิทยุ โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์ และระบบที่สอง คือระบบสื่อสารสองทาง เช่น Video on Demand และVideo Conference ซึ่งมีการจำลองการเรียนการสอนทางไกล โดยใช้โปรแกรม Skype ให้ผู้เข้าชมงานได้ทดลองใช้อีกด้วย 


และก็เดินทางกันมาถึงบูทสุดท้าย แหมช่างตั้งชื่อบูธได้เหมาะเจาะมากสงสัยจะรอเบียร์นาน   Do you hear me คุณได้ยินฉันไหม  อารมณ์ประมาณว่าเรียกตั้งนานแล้วไม่ได้ยินมัวแต่ไปดูบูธอื่น 555 ความจริงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวเบียร์เลย คือเค้าต้องการสื่อเรื่องวิทยุเพื่อการศึกษาต่างหากล่ะ ซึ่งมีกิจกรรมเพื่อให้ผู้เข้าชมงานร่วมได้ลองประกาศข่าวทางวิทยุโดยมีสคริปให้ ทีแรกเบียว่าจะลองเข้าไป แต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่าเขิน 555
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับงาน techno show case สำหรับเบียร์ เบียร์คิดว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมากๆเลยล่ะคะ ได้ทั้งความรู้ ความสนุกสนาน และประสบการณ์การจัดงาน ถึงแม้ปีนี้รุ่นเบียร์จะไม่ค่อยมีบทบาทอะไรมาก แต่เบียร์ก็เห็นการทำงานของพี่ๆ เห็นพี่ๆเค้าประชุม วางแผน เตรียมงาน ทุ่มเทจนออกมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ



สื่อสร้างสรรค์ การศึกษา


สวัสดีค่ะวันนี้เบียร์จะพาทุกคนไปพบกับสื่อการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ โดมิโน หรรษา จับคู่ซ่าวิตามิน 



เรามาดูกันดีกว่า ว่าข้างในมีอะไรอยู่บ้างนะ เปิดมาก็เจอนี่เลย คู่มือวิตามิน  ในนี้ก็จะเป็นตารางบอกคุณประโยชน์  แล้วก็แหล่งของวิตามิน ให้พวกเราได้ศึกษากันค่ะ  












หลังจากศึกษาจบแล้ว สิ่งที่เรารอคอยก็มาถึง  เย่ นั่นก็คืออออ  เราจะมาทบทวนความรู้กันผ่านเกมโดมิโน  เพื่อนๆหลายคนคงจะเคยเล่นโดมิโน่ที่เป็นตัวเลขกันมาแล้ว แต่นี่เป็นโดมิโนชนิดพิเศษ นั่นก็คือโดมิโนวิตามิน เราสามารถชวนเพื่อนๆมาเล่นด้วยกันหลายๆคนได้  โดยเฉพาะเพื่อนๆที่กำลังเรียนเรื่องวิตามินกันอยู่ค่ะ


วิธีเล่นของเราก็คือ เราจะคว่ำโดมิโนทั้งหมด  เสร็จแล้วเราก็จะหยิบมาคนละ 5 ตัว และหยิบขึ้นมาจากกอง 1 ตัว มาไว้ตรงกลาง แล้วก็ดูซิว่าได้ตัวอะไร 
 


อย่างอันนี้ก็คือ ข้างหนึ่งจะเป็นรูปตัวเอ และอีกข้างหนึ่งจะเป็นข้อความเขียนว่าช่วยการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต  แร้วใครที่มีโดมิโนที่สามารถจับคู่ได้ก็วางลงไปได้เลย อย่างอันนี้ก็จะเป็น  บำรุงสายตา ก็สามารถนำไปต่อที่ตัวเอได้เลยเพราะวิตามิน A ช่วยบำรุงสายตา 





แล้วต่อไปก็จะให้เพื่อนได้เล่นบ้าง กติกาก้อเหมือนเดิมเลยคือให้หาคู่จับคู่วิตามินกับประโยชน์ให้ได้  อย่างอันนี้ก็จะเป็นลดความดันโลหิตสูง นำไปต่อกับบี 3 ผลัดกันเล่นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าอย่างในกรณีที่ใครไม่มีคู่ที่สามารถต่อได้ก็ต้องไปหยิบจากในกองมาเพิ่ม  ถ้าตัวที่หยิบขึ้นมาต่อลงไปได้ก็ต่อลงไปได้เลย 



แต่ถ้าต่อไม่ได้ก็จะได้จำนวนโดมิโนเพิ่มมาอีก  1 ตัว  ฮือ ฮือ TT เล่นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนฝ่ายไหนหมดก่อนก็ชนะ  รับไปเลยรอยยิ้มจากเจ้าของบล็อกค่ะ  ^^



ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับสื่อการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆเลยล่ะค่ะ  เป็นสื่อที่ให้ความรู้และก็ยังเป็นเกมได้ด้วย  สำหรับเพื่อนๆที่สนใจสามารถมาขอยืมไปเล่นได้นะคะที่ "ศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ"  วันนี้เบียร์ก็ขอตัวลาไปก่อน  ขอบคุณค่ะ  ^^










เด็กฝึกงาน ประสบการณ์นอกห้องเรียน (ตอน ห้องเรียนทางไกล)


กลับมาอีกครั้งกับการฝึกงาน หลังจากที่ได้ไปฝึกในโรงละคร นั่งดูหนัง กินป๊อบคอร์นกันกันแบบชิวชิวมาแล้ว คราวนี้ก็เปลี่ยนแนวมาเป็นการศึกษากันบ้าง  ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่างานวันนี้มีการสื่อสารที่ผิดพลาดนิดหน่อย ทำให้เราก็ไปนั่งคอยพี่เค้า และทำให้เราพลาดโอกาสที่จะได้เรียนรู้ก่อนลงมือปฏิบัติจริง แต่เราก็ได้เรียนรู้ว่าการสื่อสารเป็นอะไรที่สำคัญมาก หากสื่อสารกันผิดพลาด หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สื่อสารก็จะทำให้งานทุกอย่างรวน และไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร

เพราะฉะนั้นเมื่อเราขึ้นไปที่ห้องเรียนทางไกลกันก็เป็นเวลาที่เค้าได้ทำการออกอากาศแล้ว  เราจึงเล่นอะไรไม่ได้มากนัก หลักๆ ก็ทำได้เพียง switcher และเลื่อนกล้องซึ่งก็สามารถทำได้ทีละคน แต่ก็ได้เข้าใจระบบการทำงานของการเรียนการสอนทางไกลผ่าน Video Conference โดยการทำงานแต่ละครั้งใช้ผู้ควบคุมเพียง 1-2 คน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ทางห้องส่งที่ประสานมิตร  ทำงานประสานกับเจ้าหน้าที่อยู่ทางฝั่งองครักษ์ที่คอยรับสัญญาณ
 

หลังจากการฝึกงานในช่วงเช้าซึ่งเราก็ยังไม่ได้ทำอะไรมาก  แต่ก็พอเข้าใจระบบในระดับหนึ่ง ในช่วงบ่ายซึ่งไม่ได้มีการเรียนการสอนทางไกล พี่เค้าจึงได้ใช้เวลาในช่วงนี้ให้เราฝึกควบคุม Mixer และ Switcher โดยการสมมุติว่ารายการกำลังออกอากาศ อาจารย์กำลังสอน ซึ่งการทำงานจะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ไม่ยาก เพียงต้องอาศัยการฝึกฝน และทำงานเป็นประจำจนคุ้นชิน จึงจะได้งานที่ออกมาดีไม่เกิดข้อผิดลาด


นอกจากการเรียนการสอนทางไกลแล้ว พี่เค้ายังให้ดูเป็นความรู้เกี่ยวกับ Production House ของการทำภาพยนตร์ เกี่ยวกับการทำเสียง ซึ่งก็พึ่งรู้วันนี้ว่าภาพยนตร์ที่เราดูอยู่นั้น  กว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย คนทำภาพยนตร์มีความละเอียดและพิถีพิถันและครีเอทสร้างสรรค์กันมากๆเลยนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างค่ะที่เบียร์อยากให้เพื่อนๆลองดู  เป็นขั้นตอนของการใช้สร้างเสียงในภาพยนตร์ค่ะ



เด็กฝึกงาน ประสบการณ์นอกห้องเรียน (ตอน โรงละคร)



หลังจากที่ได้เกริ่นไปตั้งแต่ต้นเทอมว่าตื่นเต้นที่จะได้ลงไปฝึกงานจริงๆ แลดูยิ่งใหญ่สำหรับเด็กคนหนึ่งซึ่งไม่เคยฝึกงานที่ไหนมาก่อนเลย นอกจากช่วยที่บ้านขายของ และปลูกต้นไม้ (ซึ่งอันนั้นไม่เคยคิดว่ามันเป็นงาน แต่มันคือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่เราอยู่กับมันมาตั้งแต่เด็ก) ทำให้เพิ่งรู้สึกว่านี่เราโตแล้วนะ ถึงขนาดอาจารย์ให้มาฝึกงานแล้วนะเนี่ย 555+ เพราะว่าที่บ้านเลี้ยงเราแบบค่อนข้างประคบประหงม ไม่เคยต้องออกไปทำงาน ไปสู้ชีวิตอย่างคนอื่นๆ ซึ่งบางครั้งก็อยากมีmomentอย่างนั้นบ้าง พออาจารย์บอกจะให้ไปฝึกงานมันก็เลยต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา  อิอิ

สำหรับเรื่องการฝึกงานรู้สึกเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับตัวเบียร์เอง เพราะไม่รุุ้จะต้องไปเจอกับงานอะไร แต่พอวันแรกไปแล้วก็อ๋อ สิ่งเหล่านี้เราก็เคยเรียนมาตอนปี 2 แต่ก็ใช้งานอะไรไม่ค่อยคล่องนัก  เพราะเคยลงมาแตะๆอยู่บ้างตอนอาจารย์ให้มาดูงาน อ้อ ลืมบอกไปวันแรกเบียร์มาฝึกงานที่นี่ค่ะ โรงละครอโศกมนตรีนาฏยศาลา ซึ่งวันนี้มีฉายภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจให้กับนิสิต เวลา 18.00น. แต่พี่เค้านัดเรามาตั้งแต่สี่โมงเลยล่ะค่ะ มาเรียนรู้ ระบบการทำงานและทำความรู้จักกับอุปกรณ์กันก่อน ไม่ว่าจะเป็นระบบภาพ ระบบเสียง ระบบไฟ ซึ่งพี่เค้าก็จะอธิบายหลักการทำงาน รวมทั้งสเปคของอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าการเป็นนักเทคโนไม่ใช่แค่ต้องตรงต่อเวลา แต่จะต้องไปก่อนเวลา ไป set up อุปกรณ์ ดูแลสถานที่ความเรียบร้อยกันก่อน



พี่เค้าได้แบ่งเราออกเป็นสองทีม  ทีมหนึ่งอยู่ด้านบน คอยควบคุมอุปกรณ์ ทีมหนึ่งอยู่ข้างล่างคอยดูแลความเรียบร้อยของสถานที่ พี่เค้าจะมีวอให้สองตัวให้ด้านบนคอยติดต่อประสานงานกับด้านล่าง ในการเช็คเสียง เช็คความเรียบร้อย  ซึ่งในวันที่เราไปทำ เกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อยคือมีเสียงสัญญาณแทรก ซึ่งนักเทคโนก็ต้องรู้จักคิดและแก้ไขปัญหา ว่าเสียงคลื่นแทรกตัวนี้น่าจะเกิดจากอะไร โดยอาศัยประสบการณ์ และเหตุผลความน่าจะเป็น พวกเราก็ช่วยสันนิษฐานกันไปเรื่อย พี่เค้าลองเปลี่ยนสายนู่นนี่นั่นหลายตัวมาก  แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขได้จนกระทั่งใกล้เวลาเริ่มฉาย ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ แต่สิ่งสำคัญที่เบียร์เห็นคือพี่เค้าต้องมีสติ ไม่ให้เวลามากดดันทำให้เราสติแตก จนในที่สุดก็สามารถหาวิธีแก้ไขได้ในนาทีเกือบสุดท้าย คือการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าการทำงานตรงนี้ไม่ใช่แค่ไปเปิดหนังให้คนดู  แต่ต้องมีความรู้ เพราะเราเป็นคนควบคุมทุกอย่าง ต้องสามารถที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาด และสุดท้ายที่ได้ก็คือนั่งดูหนังและกินป๊อบคอร์นไปพร้อมๆกับคนดู ช่างเป็นการฝึกงานที่มีความสุขสุดสุด  อิอิ ^^