วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

เด็กฝึกงาน ประสบการณ์นอกห้องเรียน (ตอน โรงละคร)



หลังจากที่ได้เกริ่นไปตั้งแต่ต้นเทอมว่าตื่นเต้นที่จะได้ลงไปฝึกงานจริงๆ แลดูยิ่งใหญ่สำหรับเด็กคนหนึ่งซึ่งไม่เคยฝึกงานที่ไหนมาก่อนเลย นอกจากช่วยที่บ้านขายของ และปลูกต้นไม้ (ซึ่งอันนั้นไม่เคยคิดว่ามันเป็นงาน แต่มันคือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่เราอยู่กับมันมาตั้งแต่เด็ก) ทำให้เพิ่งรู้สึกว่านี่เราโตแล้วนะ ถึงขนาดอาจารย์ให้มาฝึกงานแล้วนะเนี่ย 555+ เพราะว่าที่บ้านเลี้ยงเราแบบค่อนข้างประคบประหงม ไม่เคยต้องออกไปทำงาน ไปสู้ชีวิตอย่างคนอื่นๆ ซึ่งบางครั้งก็อยากมีmomentอย่างนั้นบ้าง พออาจารย์บอกจะให้ไปฝึกงานมันก็เลยต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา  อิอิ

สำหรับเรื่องการฝึกงานรู้สึกเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับตัวเบียร์เอง เพราะไม่รุุ้จะต้องไปเจอกับงานอะไร แต่พอวันแรกไปแล้วก็อ๋อ สิ่งเหล่านี้เราก็เคยเรียนมาตอนปี 2 แต่ก็ใช้งานอะไรไม่ค่อยคล่องนัก  เพราะเคยลงมาแตะๆอยู่บ้างตอนอาจารย์ให้มาดูงาน อ้อ ลืมบอกไปวันแรกเบียร์มาฝึกงานที่นี่ค่ะ โรงละครอโศกมนตรีนาฏยศาลา ซึ่งวันนี้มีฉายภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจให้กับนิสิต เวลา 18.00น. แต่พี่เค้านัดเรามาตั้งแต่สี่โมงเลยล่ะค่ะ มาเรียนรู้ ระบบการทำงานและทำความรู้จักกับอุปกรณ์กันก่อน ไม่ว่าจะเป็นระบบภาพ ระบบเสียง ระบบไฟ ซึ่งพี่เค้าก็จะอธิบายหลักการทำงาน รวมทั้งสเปคของอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าการเป็นนักเทคโนไม่ใช่แค่ต้องตรงต่อเวลา แต่จะต้องไปก่อนเวลา ไป set up อุปกรณ์ ดูแลสถานที่ความเรียบร้อยกันก่อน



พี่เค้าได้แบ่งเราออกเป็นสองทีม  ทีมหนึ่งอยู่ด้านบน คอยควบคุมอุปกรณ์ ทีมหนึ่งอยู่ข้างล่างคอยดูแลความเรียบร้อยของสถานที่ พี่เค้าจะมีวอให้สองตัวให้ด้านบนคอยติดต่อประสานงานกับด้านล่าง ในการเช็คเสียง เช็คความเรียบร้อย  ซึ่งในวันที่เราไปทำ เกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อยคือมีเสียงสัญญาณแทรก ซึ่งนักเทคโนก็ต้องรู้จักคิดและแก้ไขปัญหา ว่าเสียงคลื่นแทรกตัวนี้น่าจะเกิดจากอะไร โดยอาศัยประสบการณ์ และเหตุผลความน่าจะเป็น พวกเราก็ช่วยสันนิษฐานกันไปเรื่อย พี่เค้าลองเปลี่ยนสายนู่นนี่นั่นหลายตัวมาก  แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขได้จนกระทั่งใกล้เวลาเริ่มฉาย ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ แต่สิ่งสำคัญที่เบียร์เห็นคือพี่เค้าต้องมีสติ ไม่ให้เวลามากดดันทำให้เราสติแตก จนในที่สุดก็สามารถหาวิธีแก้ไขได้ในนาทีเกือบสุดท้าย คือการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าการทำงานตรงนี้ไม่ใช่แค่ไปเปิดหนังให้คนดู  แต่ต้องมีความรู้ เพราะเราเป็นคนควบคุมทุกอย่าง ต้องสามารถที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาด และสุดท้ายที่ได้ก็คือนั่งดูหนังและกินป๊อบคอร์นไปพร้อมๆกับคนดู ช่างเป็นการฝึกงานที่มีความสุขสุดสุด  อิอิ ^^














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น